รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองตรวจพื้นที่หาดเชียงรายเสนอทำพนังกั้นน้ำและจัดการทรัพยากรน้ำพร้อมแจงเรื่องสารปนเปื้อนแม่น้ำกก

“การลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำของเทศบาลนครเชียงราย ซึ่งเป็นต้นแบบในการบูรณาการระหว่างงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเกษตรปลอดภัย การติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่รัฐบาลยังคงเฝ้าระวังและดำเนินมาตรการรองรับอย่างต่อเนื่อง “

วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2568 นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พร้อมด้วย นายอิทธิพล ช่างกลึงดี ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 16 และคณะทำงาน ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามความพร้อมและความเหมาะสมของ “โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อความมั่นคงของน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภค”

โดยมีนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมคณะผู้บริหารเทศบาลนครเชียงราย และพี่น้องประชาชนนครเชียงราย ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ บริเวณหาดนครเชียงราย ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำฯ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสะอาดในเขตเมือง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ใช้น้ำจากแม่น้ำกกที่พบสารปนเปื้อนในระดับที่อาจกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว เทศบาลนครเชียงรายจึงได้ริเริ่มโครงการนี้เพื่อสร้างระบบน้ำสะอาดที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และยั่งยืน ซึ่งได้เสนอแผนการนำน้ำจากแหล่งอื่น เช่น แม่น้ำลาว มาใช้ผลิตประปา ตลอดจนพัฒนาพื้นที่หาดนครเชียงรายให้เป็นสวนสาธารณะและแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรปลอดภัยตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงในการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้นวัตกรรมการเกษตรสำหรับเกษตรกรรุ่นใหม่ รวมถึงการทำแนวป้องกันน้ำท่วม หรือพนังกั้นน้ำ ความสูง 1.20 เมตร

นายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวแสดงความห่วงใยถึงสถานการณ์น้ำในจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ใช้น้ำจากแม่น้ำกก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลักของจังหวัด ทั้งเพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร พร้อมย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วนกับการพัฒนาโครงการเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงน้ำสะอาดอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะการประสานงานกับทางประเทศเมียนมา ในการแก้ไขเรื่องสารปนเปื้อน ซึ่งได้ประสานงานต่อเนื่อง

ในส่วนของแผนบริหารจัดการน้ำเทศบาลนครเชียงรายได้นำเสนอแนวทางดำเนินงานทั้งระยะสั้นและระยะกลาง โดยระยะสั้นได้ดำเนินการขุดลอกแม่น้ำหลัก ได้แก่ แม่น้ำกก แม่น้ำรวก ซึ่งแล้วเสร็จภายใน 2–3 เดือน ด้วยความร่วมมือจากกรมการทหารช่างและหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เพื่อเพิ่มศักยภาพการรองรับน้ำในช่วงฤดูฝน ส่วนแผนระยะกลาง จะเป็นการรื้อสิ่งกีดขวางทางน้ำ และวางแนวพนังกั้นน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดอย่างเป็นระบบ